การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง 2

บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับจาก link นี้

http://yourtradingcoach.com/trading-process-and-strategy/advanced-candlestick-analysis-part-2-of-2/

(ผมได้ปรับรูปแบบในการแสดงกราฟเล็กน้อย เพื่อให้อ่านได้ง่ายขึ้น แต่เนื้อหายังคงครบถ้วนทุกประโยคครับ)

การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง 2

เขียนโดย Lance Beggs

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ตอนที่ 2 ของหัวข้อสั้นๆในเรื่องการวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง

ถ้าคุณยังไม่เคยอ่านตอนที่ 1, คุณจะพบบทความนั้นที่หน้าเพจนี้:

การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง 1

ในบทความล่าสุด เราทบทวนแนวคิดที่สำคัญบางอย่างจากการวิเคราะห์แท่งเทียน:

• ความสำคัญของการระบุบริบท/สภาพแวดล้อมของตลาด – pattern กำลังเกิดขึ้นตรงบริเวณไหน ภายในโครงสร้างของตลาด
• ความสำคัญของการเทรด (ส่วนใหญ่) ตาม trend – ใช่แล้ว, รูปแบบการกลับตัวยังสามารถนำมาใช้ที่จุดสิ้นสุดของการย่อตัว เป็นสัญญาณของการไปต่อในแนวโน้มของ timeframe ที่ใหญ่กว่า, และ
• ความสำคัญของการเข้าใจในธรรมชาติของความน่าจะเป็นของตลาด และความจำเป็นของการบริหารความเสี่ยงและเงินเพื่อป้องกันความเสียเปรียบของคุณ

เราค้นพบว่า ตรงกันข้ามกับความเชื่อที่นิยมกันโดยบรรดามือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสู่ธุรกิจนี้, การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง (ถ้าสิ่งนี้มันมีอยู่)* ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ:

• candlestick patterns ที่ดีกว่าและเป็นความลับกว่า, หรือ
• การผสมผสานอันแสนมหัศจรรย์บางอย่างของ indicator ที่เป็นเทคนิคจากฝั่งตะวันตก และรูปแบบการกลับตัวจากแท่งเทียน

แต่จริงๆแล้ว มันเพียงแค่เกี่ยวข้องกับการมองการไหลของราคาในแนวทางใหม่เท่านั้นเอง

ผมชอบที่จะคิดว่ามันเป็นเหมือนหนังสือ, โปสเตอร์ และสิ่งพิมพ์ที่เป็น Magic Eye (http://www.magiceye.com/3dfun/stwkdisp.shtml) ที่เป็นที่นิยมกันเมื่อราวๆช่วงยุค 90’s ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ ภาพนั้นจะเป็นเพียงแค่สีและรูปร่างที่พร่ามัว แต่โดยการเปลี่ยนจุดโฟกัสใหม่เล็กน้อยในการมองของเรา ผู้สังเกตที่ได้ฝึกฝนมาแล้วจะสามารถมองภาพ 3 มิติที่ซ่อนอยู่ได้

โชคดีที่การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูงไม่จำเป็นต้องหรี่ตา/เอียงตา หรือเปลี่ยนจุดโฟกัสของตา

ทั้งหมดที่ต้องใช้ก็คือความเข้าใจที่ว่าแท่งเทียนเป็นตัวแทนที่มองเห็นได้ด้วยตาของอารณ์ bullish หรือ bearish ภายใน timeframe ที่เราดูอยู่ซึ่งแสดงผ่านออกมาโดยแท่งเทียนนั้น และจากนั้นก็ใช้พลังของคำถามต่างๆเพื่อเปรียบเทียบแท่งปัจจุบันกับแท่งอื่นๆที่อยู่ก่อนหน้า เพื่อที่จะรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ bullish หรือ bearish ขณะที่ราคากำลังลื่นไหลจากแท่งหนึ่งไปยังอีกแท่งหนึ่ง

เราปิดท้ายครั้งก่อนด้วยกลุ่มเล็กๆของคำถามตัวอย่างต่างๆ ที่ช่วยให้คุณมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์:

• แท่งเทียนแท่งปัจจุบันสามารถผ่าน high/low ของแท่งก่อนหน้า ในทิศทางเดียวกับแท่งก่อนหน้าได้ไหม, มันสามารถที่จะปิดแท่งในบริเวณนี้ หรือการทะลุออกไปถูกปฏิเสธ
• แท่งเทียนได้เคลื่อนที่เลย high/low ของแท่งก่อนหน้า ในทิศทางสวนกับแท่งก่อนหน้าไหม, มันสามารถที่จะปิดแท่งในบริเวณนี้ หรือการทะลุออกไปถูกปฏิเสธ
• แท่งเทียนแท่งปัจจุบันเคลื่อนที่เข้ามาใน body (หรือ range) ของแท่งก่อนหน้า ได้ลึกมากแค่ไหน ราคาได้เลย body (หรือ range) ของแท่งก่อนหน้า ได้ไกลมากแค่ไหน
• range ของแท่งเทียนแท่งปัจจุบัน เทียบกับ ของแท่งก่อนหน้า เป็นอย่างไร
• มีหางยาวๆที่ high หรือ low ของแท่งเทียนไหม, และนัยสำคัญของการปฏิเสธที่ราคานี้คืออะไร
• ราคาได้แสดงพฤติกรรมอย่างไรเมื่อมาถึงบริเวณที่มีนัยสำคัญ เช่น บริเวณของแนวรับหรือแนวต้าน, swing high หรือ low ก่อนหน้านี้, high/low หรือ close ของเมื่อวาน, ราคาเิปิด หรือ ช่วงการเปิดของวันนี้ (หรือ บริเวณอื่นๆที่คุณคิดว่ามีนัยสำคัญ), ตลาดยอมรับราคาเหล่านี้ไหม หรือปฏิเสธบริเวณเหล่านี้
• โมเมนตัมของ price swing ปัจจุบัน เพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยเฉพาะในขณะที่มันเคลื่อนที่เข้าหาบริเวณที่มีนัยสำคัญดังที่กล่าวไว้ด้านบน
• แท่งเทียนนี้ได้ทำให้พวก long ติดกับไหม, หรือพวก short ติดกับ, หรือทำให้ใครๆออกจากตลาดก่อนเวลาอันควรไหม

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเท่านั้น และสามารถที่จะถูกแทนที่ได้ง่ายๆด้วยสิ่งอื่นๆที่ช่วยให้คุณรับรู้การพลิกของอารมณ์ตลาดที่ดีกว่า

ท้ายที่สุด, จุดมุ่งหมายของคุณก็เพื่อจะตอบคำถามต่อไปนี้ – “price action ณ ป้จจุบันนี้ ยืนยันความโน้มเอียงก่อนหน้านี้ของฉันไหม, ถ้าไม่ อารมณ์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไร และนั่นเปลี่ยนความโน้มเอียงของฉันหรือเปล่า”

รู้สึกสับสนใช่ไหม หวังว่าตัวอย่างคงจะช่วยได้...

เราแสดงกราฟต่อไปนี้ในตอนที่ 1 (GBP/USD, 26 พฤษภาคม 09, 5 นาที) ซึ่งมี hammer ที่จุดต่ำสุดของ downtrend บางทีอาจจะไม่ใช่ hammer ที่สมบูรณ์แบบตามตำรา เนื่องจากมี ‘หาง’ ที่มากเกินความจำเป็นเล็กน้อย ที่ด้านบนของแท่งเทียน แต่ยังไงก็ยังเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยม

ผมทิ้งการบ้านบางอย่างไว้ให้คุณ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์กราฟนี้แบบแท่งต่อแท่ง (bar by bar), การตั้งคำถามถึงความเป็น bullish หรือ bearish ของแต่ละแท่ง และมันมีความสัมพันธ์กับแท่งต่างๆก่อนหน้าอย่างไรในการกำหนดความโน้มเอียงของคุณ จุดมุ่งหมายของแบบฝึกหัดนี้คือเพื่อที่จะดูว่าคุณสามารถหาเหตุผลบางอย่างได้หรือไม่ ว่าทำไม hammer ถึงได้เป็นสัญญาณการ BUY ที่ยอดเยี่ยม นอกเหนือจากความจริงที่ว่ามันตรง (หรือใกล้เคียง) กับรูปแบบ hammer ที่แสดงไว้ในตำราต่างๆ

ถ้าอย่างนั้น เราลองมาดูวิธีที่ผมมองการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ภายในกราฟนี้

ประเด็นสั้นๆสองเรื่องก่อนที่เราจะเริ่ม:

1. เพื่อประโยชน์ของการทำให้บทความนี้สั้นลงกว่าสิ่งที่มันควรจะเป็น ผมจะไม่ลงความเห็นบนทุกๆแท่งเทียน เฉพาะแท่งที่ให้ข้อมูลที่มีนัยสำคัญ, สอดคล้องกับการสนับสนุนหรือปรับเปลี่ยนความโน้มเอียงของตลาดของผมเท่่านั้น ความเห็นบนแต่ละแท่งจะถูกอธิบายในแบบสั้นๆด้วยเช่นกัน ผมจะไม่ตอบคำถามแต่ละคำถามที่แสดงไว้ด้านบนในแบบลงรายละเอียด - การบ่งบอกสิ่งที่ผมรู้สึกว่าเป็นประเด็นที่ชัดเจนและสอดคล้องกัน หลังจากที่ได้ถามคำถามด้านบนกับตัวผมเองแล้ว เท่่านั้น

2. ผมตระหนักดีว่าการวิเคราะห์นี้ถูกทำขึ้นด้วยประโยชน์ของการมองสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว (พยายามอย่างมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ที่จะไม่มองด้านขวามือของกราฟ, มันเป็นไปไม่ได้ที่จะละเลยเพิกเฉยต่อการวิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจาก hammer) นั่นไม่ได้หมายความว่านี้เป็นแบบฝึกหัดที่ไร้ประโยชน์ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มันเป็น – ตัวอย่างของการวิเคราะห์ลักษณะนี้สามารถใช้ในการเทรดสดๆ ขณะที่ตลาดค่อยๆแสดงข้อมูลออกมา เพื่อรักษาหรือปรับเปลี่ยนความโน้มเอียงของตลาดของคุณ ความเป็นจริงก็คือการวิเคราะห์ตลาดแบบสดๆจะซับซ้อนมากกว่านี้ โดยส่วนตัว ผมได้รวม timeframe ที่ใหญ่กว่าเข้ามาด้วย เพื่อหาโครงสร้างของตลาดในการระบุบริเวณแนวรับและแนวต้านหลักๆ และรวม timeframe ที่เล็กกว่าเข้ามาด้วย เพื่อปรับละเอียดในการวิเคราะห์ของผม และปรับละเอียดจุดเข้าและจุดออกของผม ไม่มีการนำ timeframe ที่ใหญ่กว่าและเล็กกว่าเข้ามาพิจารณาในตัวอย่างการวิเคราะห์นี้ (บทความจะกลายเป็นซับซ้อนมากขึ้น) อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่แสดงไว้ในนี้ยังคงเหมือนเดิม เอาสิ่งที่คุณสนใจไปใช้ และปรับมันให้เข้ากับวิธีของคุณเอง

จุดเริ่มต้นก่อนถึงแท่งที่ 1 เป็นความโน้มเอียงแบบ weak-bearish ขณะที่การเคลื่อนที่ในแนวข้างก่อนถึงแท่งที่ 1 โดยทั่วไปควรจะแสดงความโน้มเอียงแบบ neutral แต่ price action ก่อนหน้านี้ (ไม่ได้แสดงในกราฟนี้) เป็น strong downtrend กับการเคลื่อนที่ในแนวข้าง ณ ขณะนี้ แสดงถึงการพักตัวใน trend นี้ คนที่ทำการเทรดจากหลายๆ timeframe อาจมีโอกาสที่จะปรับละเอียดในการเข้า short ที่ขอบบนของบริเวณ congestion โดยคาดการณ์การไปต่อของ downtrend อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ทางเลือกบนพื้นฐานของการวิเคราะห์แบบหนึ่ง timeframe ของวันนี้

  

แท่งที่ 1 -

แท่ง strong bearish ทะลุ low ของบริเวณ congestion, range ของแท่งนี้มีความยาวกว่าแท่งอื่นๆก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ และปิดแท่งใกล้ๆกับ low ของมัน – การแสดงที่ยอดเยี่ยมของ bearish strength ซึ่งยืนยันการไปต่อของความโน้มเอียงแบบ bearish ก่อนหน้านี้, นักเทรด breakout (short) น่าจะประเมินผลการเข้าที่สวยงามตรงนี้ ดังนั้นจุดที่ breakout ตอนนี้ได้กลายเป็นบริเวณที่สำคัญสำหรับ price action ในอนาคต การวิ่งกลับขึ้นมายังบริเวณนี้มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงต้านบางส่วนเนื่องจากพวก bears ที่พลาด breakout จะใช้ความได้เปรียบของโอกาสการเข้าครั้งที่สอง และพวก bulls ที่ติดกับจากการ long จะใช้โอกาสนี้ในการออกด้วยการขาดทุนที่น้อยกว่า ถ้าราคาย้อนกลับมายังบริเวณ breakout ผมจะมองหาการเข้า short ในทิศทางเดียวกันกับทั้ง trend เดิม และความโน้มเอียงของผม

แท่งที่ 2 -

หางด้านบนแสดงถึงการสู้กลับเล็กๆโดยฝ่าย bulls ไม่มีการเปลี่ยนแปลงต่ออารมณ์ตลาด แม้ว่าระดับราคาที่ต่ำลงเหล่านี้กำลังล่อใจต่อผู้ซื้อบางส่วน และ/หรือ ต่อการทำกำไรออกบางส่วนของพวกที่เข้า short ก่อนหน้านี้

แท่งที่ 3 -

การดันขึ้นไปครั้งที่สองโดยฝ่าย bulls โดยส่วนตัว ผมชอบความพยายามครั้งที่สองที่จะเคลื่อนที่ไป - โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่พวกเขาล้มเหลวเนื่องจากบ่อยครั้งพวกเขาจะนำไปสู่การเคลื่อนที่ๆมากกว่าในทิศทางตรงกันข้าม ในกรณีนี้ แม้ว่าผมจะคาดหวังการขึ้นไปต่อ โดยเฉพาะเนื่องจาก breakout ที่ low ของแท่งที่ 2 น่าจะดึงดูดพวก short ที่มาช้า ผู้ซึ่งตอนนี้กำลังรู้สึกเครียดเล็กน้อย และอาจจะออก (long) ถ้าราคาสามารถไปต่อจนเลย high ของแท่งที่ 3, ความโน้มเอียงยังคงเป็น bearish เนื่องจากแท่งที่ 2 และ 3 ไม่สามารถทะลุเข้ามาใน body ของแท่งที่ 1 ได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผมจะไม่แปลกใจที่เห็นการวิ่งขึ้นต่อไป บางทีอาจจะขึ้นไปถึงจุดที่ breakout ของแท่งที่ 1

แท่งที่ 4 -

ตามที่คาดไว้ ราคาขึ้นไปต่อ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาด เนื่องจากมันใช้สามแท่งในการย้อนกลับไปได้เพียงสองในสามของแท่ง bearish breakout เพียงแท่งเดียว ความกดดันยังคงอยู่ในทิศทางขาลง พร้อมกับราคาได้เข้าใกล้บริเวณของแนวต้านที่คาดหวังไว้จาก breakout

แท่งที่ 5 -

รูปแบบ bearish engulfing ให้สัญญาณการไปต่อของความโน้มเอียงขาลง คาดหวังอย่างน้อยน่าจะไปทดสอบ low ของแท่งที่ 3 นักเทรดที่ใช้หนึ่ง timeframe อาจจะต้องการเข้าที่จุด break ด้านล่างของแท่งนี้ แต่นั่นไม่ใช่เกมส์ของผม (ความเสี่ยงมากเกินไปสำหรับนักเทรดที่ไม่ชอบความเสี่ยงตัวเล็กๆคนนี้) ความพึงพอใจของผมน่าจะเป็นการปรับละเอียดจุดเข้าบน timeframe ที่เล็กกว่า ที่ไหนสักแห่งใกล้ๆ high ของแท่งที่ 4 และ 5 แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ของแบบฝึกหัดนี้ ซึ่งก็คือเพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ตลาดและความโน้มเอียง ความโน้มเอียงขาลงยังคงมีผลอยู่

แท่งที่ 6 -

การทดสอบ low ของแท่งที่ 3 พร้อมกับหางด้านล่างซึ่งแสดงแรงซื้อที่รับไว้ที่ระดับราคานี้ ความโน้มเอียงขาลงยังคงมีผลอยู่ แต่ถูกเตือนให้ระวัง แนวรับนี้ตอนนี้ได้กลายเป็นบริเวณที่สำคัญ การ break ลงไปจากบริเวณนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นในการรักษาความโน้มเอียงแบบ bearish ความล้มเหลวในการ break ลงไปจะบ่งบอกการเปลี่ยนแปลงไปสู่ weak bearish หรือแม้แต่ neutral ยังไม่มีหลักฐานจากเหตุผลใดๆที่จะเปลี่ยนมาเป็น bullish

แท่งที่ 7 -

แนวรับเล็กๆถูก break พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของ bearish momentum ความโน้มเอียงแบบ bearish ของเรายังคงดำเนินต่อไป จุด breakout จุดใหม่ได้เกิดขึ้นแล้วซึ่งมีศักยภาพที่จะเป็นแนวต้านในอนาคต แม้ว่าจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับจุดแรกที่ breakout ของแท่งที่ 1

แท่งที่ 8 -

การไปต่อของอารมณ์ bearish โดยการปฏิเสธอย่างรวดเร็วของการพยายามขึ้นไปใน downtrend

แท่งที่ 9 -

แท่ง bullish (อาจจะเป็น hammer ถ้ามีการยืนยัน) ส่งสัญญาณถึงจุดสิ้นสุดที่เป็นไปได้ของ downswing นี้ ข้อสังเกตที่เจาะจงก็คือความจริงที่ว่ามันปิดแท่งใกล้ๆ high ของมัน และอยู่เหนือ close ของแท่งก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปฏิเสธราคาต่ำอย่างรุนแรง ความโน้มเอียงยังคงเป็น bearish แม้ว่า downtrend กำลังเตรียมตัวสำหรับการวิ่งขึ้นต่อไปอย่างมีศักยภาพ

แท่งที่ 10 -

น่าสนใจ... การดันขึ้นไปแบบ bullish ที่ค่อนข้างแรงจาก low ของแท่งที่ 9 ไปยัง high ของแท่งที่ 10 (ไปถึงจุด breakout ของแท่งที่ 7 ที่ซึ่งเราคาดหวังแรงต้านบางส่วนด้วย) มีการสู้กลับที่มีนัยสำคัญจากพวก bears ในช่วงท้ายๆของแท่งนี้ ไปปิดแท่งต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของมัน ทั้งพวก bulls และ bears แสดงการขยับตัวแลัว ณ ตอนนี้ แนวโน้มยังคงเป็นขาลง และจะยังคงเป็นเช่นนั้นจนกว่า swing high จากแท่งที่ 4 & 5 จะถูก break อย่างไรก็ตาม ความโน้มเอียงแบบ bearish กำลังอ่อนแรงลง

แท่งที่ 11 -

การปฏิเสธครั้งที่สองในบริเวณ low ของแท่งที่ 9 ความโน้มเอียงเป็น weak bearish อย่างชัดเจน

แท่งที่ 12 -

การปฏิเสธครั้งที่สามของบริเวณแนวรับนี้ ผมพูดอะไรก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความล้มเหลวของการพยายามสองครั้งที่จะเคลื่อนที่ไป ความล้มเหลวของการพยายามสามครั้งยิ่งดีขึ้นไปอีก ความโน้มเอียงของผม ณ ตอนนี้เป็นแบบ neutral หรือบางทีก็เป็นแบบ bearish ที่อ่อนมากๆ เมื่อพิจารณาว่ามันยังคงอยู่ในบริบท/สภาพแวดล้อมของ downtrend ที่ใหญ่กว่า, ผมคาดหวังมากๆที่ราคาจะวิ่งขึ้นไปจนถึง swing high ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้น ภายใน downtrend และน่าที่จะมองหาจุดเข้า long แบบปรับละเอียดใน timeframe ที่เล็กกว่า บางทีอาจจะไปออกที่การปฏิเสธราคาตรง high ของแท่งที่ 10 โปรดสังเกตว่าการพยายามที่จะเข้า long ในสถานการณ์นี้ ควรจะคาดหวังให้เป็นการเทรดแบบสวน trend แบบสั้นๆเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานของการเคลื่อนที่แบบ bullish ที่อาจจะเตือนให้ระวัง downtrend

แท่งที่ 13 -

บางทีอาจจะพูดเร็วเกินไป แท่งที่ 13 ถือว่าเป็นโชคร้ายมากๆสำหรับใครก็ตามที่ถือ short อยู่ แท่งนี้เป็นแท่ง bullish ที่แข็งแกร่ง เปิดที่ low และปิดใกล้กับ high มากๆ ทำให้เกิดแท่ง bullish ที่มี range มากที่สุดตั้งแต่ที่แสดงบนกราฟ ตรงนี้เป็นจุดแรกที่ความโน้มเอียงของผมน่าจะพลิกไปเป็น neutral ค่อนไปทาง bullish แม้ว่าจะยังอ่อนอยู่ เนื่องจากเรายังคงอยู่ใน downtrend สิ่งสำคัญในการพัฒนาความโน้มเอียงของเราคือการตระหนักถึงพฤติกรรมในอนาคตที่มีศักยภาพของทั้ง bulls และ bears บนพื้นฐานของ price action ในปัจจุบัน, พวก bears ถูกเตือนให้ระวังโดย price action นี้ พวก bears จำนวนมากอาจจะกำลังขาดทุนอยู่ แม้แต่พวก bears ที่ยังคงมีกำไรก็จะสังเกตแท่งที่ค่อนข้างที่จะเป็น bullish นี้ ที่เกิดขึ้นหลังจากการปฏิเสธสามครั้งที่ swing low ล่าสุด, พวก bears บางคนอาจจะออกโดยทันที แต่ส่วนใหญ่จะเริ่มพิจารณากลยุทธ์ในการออกของพวกเขา พวกเขาอาจจะขยับจุด stop loss ลงมาอยู่เหนือ swing high (แท่งที่ 10 หรือ แท่งที่ 4 & 5 ) ถ้าพวกเขายังไม่ได้ทำ, และอาจจะ take profit จากการทดสอบ low ของแท่งที่ 9-12 ถ้าราคาแสดงหลักฐานของการหยุดชะงักที่จะลงต่อในบริเวณนี้ พวก bulls ที่เข้า long จาก low ของแท่งที่ 9-12 อาจจะ take profit แค่บางส่วนในบริเวณใกล้ๆ high ของแท่งที่ 10 ซึ่ง swing high ที่แท่ง 4 & 5 จะเป็นโอกาสถัดไปที่จะ take profit ดังนั้นผมยังไม่มีเหตุผลที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนที่ขึ้นไปได้ไกลๆจากจุดนี้ อย่างไรก็ตาม การหยุดชะงักที่เพิ่มเข้ามาจากการทดสอบ low อาจทำให้ผมสนใจที่จะเปลี่ยนเป็นความโน้มเอียงแบบ bullish และเข้า long ดังนั้น บริเวณที่สำคัญสำหรับผม ถ้าความโน้มเอียงของผมจะเปลี่ยนไปเป็น bullish จะอยู่ที่ว่าราคาจะมีพฤติกรรมอย่างไรต่อการย้อนกลับลงไปยังบริเวณ congestion ที่ low ก่อนหน้านี้ (แท่งที่ 9-12 และ price action ที่อยู่ด้านบน) ถ้าอารมณ์ bearish ยังคงอยู่ในกระแสหลัก พวก bears ต้องแสดงความสามารถในการลงไปให้ถึง low เหล่านี้ การไม่สามารถทะลุ low ลงไปได้จะส่งสัญญาณอย่างมีศักยภาพในการเปลี่ยนความโน้มเอียง แน่นอน สิ่งนี้ยังต้องรออีกหลายแท่ง และแผนของเราอาจจะเปลี่ยนก่อนที่จะถึงตอนนั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับ price action ในอนาคต

แท่งที่ 14 -

การหยุดชะงักของการขึ้น ในบริเวณใกล้ๆ swing high ของแท่งที่ 4 & 5 สังเกตการลดลงของ range ในแต่ละแท่งของทั้งสี่แท่งที่วิ่งขึ้นมา แสดงถึงการลดลงของ momentum เมื่อวิ่งเข้าหา swing high, แท่งที่ 14 เป็นแท่งแรกที่ปิดแท่งแบบ bearish

แท่งที่ 15 -

หางด้านล่างที่สวยงามบ่งบอกว่านักเทรดจำนวนที่มากขึ้นกำลังมั่นใจเพิ่มขึ้นในการเคลื่อนที่แบบ bullish หางนี้ดูเหมือนจะเป็นผลมาจากนักเทรดที่เทรดใน timeframe ที่เล็กกว่า เข้ามาในช่วง pullback ใน timeframe นั้น ที่กลับลงมายังจุดที่แท่ง 13 breakout ออกจากบริเวณ congestion, ความโน้มเอียงของผมยังคงเป็น bullish เล็กๆ แต่ผมจะไม่ไล่ราคาและจะรอจุดเข้าจากการทดสอบ low นี้ ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้

แท่งที่ 16 -

แท่ง bearish การสู้กลับที่ดีโดยพวก bears โดยใช้ swing จากแท่งที่ 12 ถึง 14 เป็นโอกาสในการเข้า short อีกครั้ง ความโน้มเอียงของผมยังคงเป็น bullish ที่เล็กมากๆ แท่ง bearish นี้ยังไม่ได้เปลี่ยนความโน้มเอียง เนื่องจากผมกำลังมองหาสัญญาณของแนวรับที่จะรับอยู่แถวๆ low

แท่งที่ 17 -

อาจจะเป็นโอกาสในการเข้า long ใน timeframe ที่เล็กกว่า ไม่มีโอกาสที่ว่านั้นบนการวิเคราะห์แบบหนึ่ง timeframe นี้ สังเกตการลดลงของ bearish momentum ซึ่งมีหลักฐานจาก range ที่ลดลงและการปฏิเสธเล็กๆที่ low ขณะที่มันชนแนวรับ, ถ้าพวก bears ยังมีแรงที่เป็นกระแสหลัก พวกเขาน่าจะดันราคาลงทะลุแนวรับไปได้ แต่นี่ไม่เกิดขึ้น เราเห็นหลักฐานที่เพิ่มเข้ามาของการเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์ bullish

แท่งที่ 18 -

เช่นเดียวกับแท่งที่ 17 อาจจะเป็นการเข้า long ใน timeframe ที่เล็กกว่า โดยส่วนตัว ผมจะมีความสุขมากๆกับการเข้าตรงนี้ถ้ามันมีโอกาส แม้ว่า doji แสดงถึงการลังเล แต่แท่งนี้มีความรู้สึกถึง bullish เล็กๆ เนื่องจาก low ของแท่งที่ 17 ได้ถูกปฏิเสธอีกครั้ง และราคาปิดแท่งตรงบริเวณ 2/3 ของ range ค่อนไปทางด้านบน ถ้าผมเป็นนักเทรดที่เทรดจากหนึ่ง timeframe ซึ่งทำการวิเคราะห์จากกราฟนี้ ผมน่าจะวาง stop-entry order เหนือ high ของแท่งนี้

แท่งที่ 19 -

stop-entry order ที่วางไว้เหนือแท่งที่ 18 ยังไม่ถูกเปิด อย่างไรก็ตาม การเข้าในระหว่างแท่งจาก timeframe ที่เล็กกว่า อาจจะโดน stopped out ด้วยกำไรเล็กน้อย, ขาดทุนเล็กน้อย หรือ เท่าทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับการบริหารการเทรด – นั่นเป็นเรื่องธรรมดา เรามีแท่งนี้ที่แสดงถึง bearish ค่อนข้างมาก เปิดที่ high และปิดต่ำกว่า low ก่อนหน้า ในขณะที่นั่นเป็นความจริง และมีศักยภาพที่ดีสำหรับการลงต่อ มันไม่ใช่ bearish ดังที่มันเหมือนจะเป็น (ในความเห็นของผม), การเคลื่อนที่แบบ bearish ยังต้องมีเพิ่มเข้ามาซึ่งต้องผ่านแนวรับที่ low ด้านล่าง นอกจากนั้น คุณจะสังเกตว่า low ของแท่งนี้แค่เลย low ของแท่งที่ 18 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น, ในระหว่างแท่ง ที่เวลาใดเวลาหนึ่ง แท่งที่ 18 จะดูเหมือนแท่ง bearish ที่ใหญ่และน่ากลัว เหมือนกับแท่งที่ 19 ในตอนนี้, บน timeframe ที่เล็กกว่า พฤติกรรมของแท่งที่ 17 ถึง 19 นี้ จะแสดงออกมาเป็น trading range เล็กๆที่กว้าง 20 pip การ breakout ออกมาจาก low ของแท่งที่ 18 น่าจะถูกปฏิเสธได้ง่ายๆ เหมือนที่เกิดขึ้นกับแท่งที่ 18 ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน เรากำลังมองหาอะไรอยู่ในตอนนี้ ถ้าความโน้มเอียงจะกลับไปเป็น bearish พวก bears จำเป็นต้องดำเนินการดันลงไปต่อ ทะลุ และยืนอยู่ต่ำกว่า low ของแท่งที่ 9-12 ให้ได้ อย่างไรก็ตาม เราอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญในการยืนยันการเปลี่ยนของเราไปเป็นความโน้มเอียงแบบ bullish โดยผ่านทางความล้มเหลวที่จะทะลุ low ลงไป รอคอยและเฝ้าดู...

แท่งที่ 20 -

โป๊ะเช๊ะ! การยืนยันความโน้มเอียงแบบ bullish ของผม และการเข้า long สังเกตว่า trend เป็นขาลง ดังนั้น ผมเทรดด้วยความระมัดระวังตลอดเวลา ยังคงรักษาการตอบสนองต่อข้อมูลใดๆที่แสดงการฟื้นคืนมาของ bears, ความล้มเหลวที่เป็นไปได้ของการเทรดของผม และการกลับมาเริ่มความโน้มเอียงแบบ bearish อีกครั้ง

เรามาสรุปสิ่งที่เราได้จากแท่งที่ 20 เพราะว่าผมไม่ได้เข้าตลาดด้วยเหตุผลที่ว่าแท่งนี้เป็นรูป hammer:

1. ความโน้มเอียงแบบ bearish ใน downtrend จากแท่งที่ 1 ลงมาถึงแท่งที่ 9

2. เจอแนวรับโดยเห็นหลักฐานที่ชัดเจนจากแรงซื้อที่ low ของแท่งที่ 9 ถึง 12

3. ทะลุขึ้นไปด้วยแท่งที่ 13 ซึ่งเป็นแท่งที่เป็น bullish ที่มากที่สุด ณ ตอนนั้น ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนที่มีศักยภาพไปเป็นความโน้มเอียงแบบ bullish

4. ตามมาด้วยการเคลื่อนที่ๆมี momentum ที่ลดลง ในการเคลื่อนที่ไปทดสอบ low เดิม (upswing momentum จากแท่งที่ 12 ถึง 14 มีความแข็งแกร่งกว่า downswing momentum จากแท่งที่ 14 ถึง 20)

5. และการปฏิเสธที่สวยงามจากการทดสอบของแท่งที่ 20 โปรดสังเกตสิ่งที่อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุด – แท่งที่ 20 จริงๆแล้วทะลุ swing low ของแท่งที่ 9-12 ไปหนึ่ง pip ซึ่งน่่าจะเปิดออเดอร์ short ของพวก breakout เป็นจำนวนมาก การย้อนกลับอย่างรวดเร็วจะทำให้พวกนี้ติดกับในสภาวะขาดทุน ทำให้พวกเขาตะเกียกตะกายจะออกจากตลาดตรงการ break ของ high ของแท่ง hammer ซึ่งเป็นการเพิ่มกระแสคำสั่งในฝั่ง bullish และช่วยผลักดันเทรดของผมไปสู่สภาวะกำไร

แน่นอน นั่นเป็นเพียงแค่การเข้า การบริหารการเทรดในขณะที่เทรดกำลังดำเนินไปและการออก มีความสำคัญยิ่งกว่า แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นหัวข้อในโอกาสต่อๆไป

หวังว่าตัวอย่างนี้ในแนวทางที่ผมทำการวิเคราะห์จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณบางคน ผมอยากจะย้ำคำพูดของผมก่อนหน้านี้ – “ใช่แล้ว ผมรู้ว่ามันทำขึ้นจากการมองสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว” มันเป็นเพียงแค่ตัวอย่างของกระบวนการทางความคิดของผมบางอย่างในขณะที่ผมเฝ้าดูราคาเคลื่อนที่ เช่นเคย นำสิ่งที่คุณคิดว่ามีคุณค่าไปใช้ และทิ้งส่วนที่เหลือไว้

ความเห็นสุดท้ายสั้นๆ – ในการเทรดแบบใช้สัญชาตญาณแบบนี้ การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด การเทรดที่สอดคล้องกับความรู้สึกของเราจากความโน้มเอียงแท้ที่จริงคือการหาเส้นทางที่มีแรงต้านน้อยที่สุด ในขณะที่มันยอดเยี่ยมเมื่อมันได้ผล มันสามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากมายเมื่อความโน้มเอียงของคุณไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของตลาด คุณต้องเต็มใจที่จะเปลี่ยนความโน้มเอียงของคุณได้ในช่วงพริบตา ทันทีที่หลักฐานปรากฏว่ามันตรงกันข้ามกับความคิดเห็นก่อนหน้านี้ของคุณ เราจะให้ข้อมูลที่มากขึ้นในเรื่องอันตรายของความโน้มเอียงที่ผิด และความท้าทายทางจิตวิทยาในการรักษาและปรับเปลี่ยนความโน้มเอียง ในบทความในอนาคต

จนกว่าจะถึงตอนนั้น มีความสุขกับการวิเคราะห์แท่งเทียน‘ขั้นสูง’

Lance Beggs

*

เมื่อผมกล่าวถึงการวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูงในตอนเริ่มต้นของบทความนี้ ทำไมผมต้องเพิ่มข้อความในวงเล็บว่า ‘ถ้าสิ่งนี้มันมีอยู่’ ผมทำลงไปเพราะว่าในหลายๆแง่มุม วิธีการวิเคราะห์ขั้นสูงนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแท่งเทียนเลย เทคนิคนี้สามารถนำไปใช้กับ bar chart ก็ได้ และในความเป็นจริง ผมก็ทำอยู่บ่อยๆ – สลับไปมาระหว่าง candles กับ bars ขึ้นอยู่กับว่าแบบไหนจะช่วยให้ผมมองเห็นการไหลของราคาได้ดีกว่ากันในวันนั้น ดังนั้น คุณสามารถเรียกมันว่า การวิเคราะห์พฤติกรรมของราคา แทนที่จะเรียก การวิเคราะห์แท่งเทียนขั้นสูง ก็ได้