Sunday, December 30, 2012

ความลับที่ซ่อนอยู่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค

บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับจาก link นี้

ความลับที่ซ่อนอยู่ของการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เขียนโดย Lance Beggs

คุณรู้ไหมว่ามี ‘อีกมิติหนึ่ง’ ของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่นักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่ไม่ตระหนักถึงเลย หรือกลัวที่จะศึกษาเนื่องจากว่ามันอาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างจริงจังบ้าง

ใช่ มันมีอยู่จริง และผมอยากจะแนะนำว่าถ้านักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่มุ่งไปในแนวทางนั้น บางทีมันอาจจะคุ้มที่จะลองศึกษาดู

การวิเคราะห์ทางเทคนิคคืออะไร สำหรับนักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่ มันดูเหมือนว่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางต่อไปนี้ หรือผสมกัน
  1. ความสามารถในการกำหนดพฤติกรรมของราคาผ่านเทคนิคการดูกราฟแบบดั้งเดิม เช่น คำจำกัดความของ uptrend และ downtrend จากทฤษฎี Dow และการจำได้ของ patterns ต่างๆ เช่น channels, triangles, head and shoulders, cup and handles, และอื่นๆ
  2. ความสามารถในการเป็นตัวแทนของพฤติกรรมของราคาผ่านทาง indicators หลากหลายแบบที่อยู่บนโปรแกรมเทรดของคุณ เช่น moving average, stochastics, MACD และอื่นๆ

มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ความจริงคือไม่ว่าเราจะให้คำจำกัดความโครงสร้างของตลาด บนพื้นฐานของทฤษฎี Dow หรือ ทฤษฎีคลื่นของ Elliot หรือผ่านทางการใช้ indicator มันสำคัญที่จะจำว่าโครงสร้างนี้ให้คำจำกัดความการเคลื่อนที่ของตลาดในอดีต มันเป็นการทำให้ง่ายขึ้นในการระบุสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตอย่างรวดเร็ว

กำไรมาจากพฤติกรรมของราคาในอนาคต ไม่ใช่จากอดีต ดังนั้นหลังจากกำหนดการเคลื่อนไหวของราคาในอดีต นักเทรดเหล่านั้นก็จะใช้กฎทั่วๆไปที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของราคาในอดีตเพื่อหาจุดเข้าในตลาด

ยกตัวอย่าง
  • “การ break ลงด้านล่างผ่านเส้น neckline ของ head and shoulders pattern เป็นการเข้า short ที่เยี่ยม โดยมีเป้าหมายเท่ากับระยะทางจาก neckline ไปถึงจุดสูงสุดของ head” - ดังนั้นหลังจากระบุการ break ลงด้านล่าง พวกเขาก็เข้า short
  • “การตัดกันของ moving average เป็นการแสดงการเปลี่ยนของ trend” – ดังนั้นการระบุ เส้น EMA(10) ตัดเส้น EMA(20) ขึ้นไป นักเทรดมือใหม่ก็เข้า long

ย้ำอีกครั้ง มันดี – อย่างน้อยก็ดีกว่าการเข้าแบบสุ่ม กฎทั่วไปสำหรับการเข้าเหล่านี้ก็ใช้ได้ ถ้าคุณพอใจที่มันให้ความได้เปรียบเล็กน้อย และคุณเข้าใจธรรมชาติของพฤติกรรมของราคาในเชิงสถิติจริงๆ และมีการประเมินความจำป็นในการกำหนดขนาดของออเดอร์และการจัดการความเสี่ยง คุณอาจจะทำกำไรได้บ้าง

อย่างไรก็ตาม ผมอยากจะแนะนำว่า มีอีกมิติของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่คุณยังไม่เห็น นั่นก็ยังไม่ใช่การรับประกันความสำเร็จ (Holy Grail ไม่มีอยู่จริง ดังนั้นหยุดตามหามันได้แล้ว) แต่มันจะให้โอกาสที่ดีขึ้นในการเพิ่มความได้เปรียบของคุณ การใช้มิติของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ซ่อนอยู่นี้จะให้โอกาสคุณในการหาจุดเข้าที่มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่าและมีความเป็นไปได้ที่สูงกว่า การเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าโดยการเข้าแต่เนิ่นๆในช่วงที่อยู่ใกล้กับบริเวณแนวรับและแนวต้าน ดังนั้นคุณสามารถกำหนดจุดตัดขาดทุนได้อย่างปลอดภัย การเทรดที่มีความเป็นไปได้ที่สูงกว่าโดยการวิเคราะห์อย่างใกล้ชิดบนความจริงที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคามากกว่ากฎทั่วไปสำหรับการเข้าโดยอาศัย pattern หรือ indicator

งั้นเราจะหา ‘อีกมิติ’ ของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ว่านี้จากที่ไหนหล่ะ
มองเข้าไปเบื้องหลัง indicator ของคุณ หรือเบื้องหลัง pattern ดั้งเดิม และคุณพบอะไร

พฤติกรรมของราคา (price action)!

มันไม่สำคัญว่าเราให้คำจำกัดความพฤติกรรมของราคาในอดีตยังไง – uptrend, downtrend, sideways, head and shoulders pattern, ascending triangle, คลื่นที่ 4 ของรูปแบบ ห้าคลื่น มันเป็นแค่ชื่อที่อธิบายการประมาณการเคลื่อนไหวของตลาดในอดีต

ชื่อไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือธรรมชาติของการเคลื่อนไหวของราคาที่อยู่เบื้องหลัง pattern หรือ indicator

หลายคนมากๆจะพูดว่า เพราะว่าราคาอยู่เหนือ เส้น 50 period moving average หรือเพราะว่า เส้น EMA(10) อยู่เหนือ EMA(20) หรือเพราะว่า พวกเขาได้ระบุโครงสร้างของจุดสูงสุดที่สูงขึ้น และจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ดังนั้นตลาดอยู่ในช่วง uptrend พวกเขานำชื่อมาใช้ – uptrend และก็แค่นั้นเอง จบเรื่อง ตลาดอยู่ในช่วง uptrend และพวกเขากำลังหาการเทรดในทิศทาง long

การมองให้ไกลกว่า “uptrend” เพื่อดูว่าราคาจริงๆแล้วกำลังเคลื่อนไหวอย่างไร จะทำให้เราเห็นความแข็งแกร่งหรือความอ่อนแอของ trend นั้น มันสามารถทำให้คุณเข้าใจลึกลงไปในความกลัว ความไม่แน่ใจ หรือความโลภของผู้เล่นในตลาดที่สร้างพฤติกรรมของราคา ที่ต่อมากลายเป็น trend หรือ pattern หรือทำให้ indicator ขยับ

ผมไม่ได้กำลังบอกว่าคุณจำเป็นจะต้องกำจัด indicator ของคุณออกไป – เพียงแค่รับรู้ถึงสิ่งที่พวกมันเป็น – การช่วยประมาณการณ์ของตลาด

และรับรู้ว่าถ้าคุณต้องการที่จะพัฒนาความได้เปรียบของคุณ คุณอาจจำเป็นต้องมองไปที่เบื้องหลัง pattern, มองไปที่เบื้องหลัง indicator, มองให้ไกลกว่าชื่อ และดูสิ่งที่ราคากำลังทำอยู่จริงๆ

  • ความผันผวนของราคากำลังเปลี่ยนไปหรือเปล่า และนั่นหมายความว่าอย่างไร
  • โมเมนตัมกำลังเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือเปล่า นั่นหมายความว่าอย่างไร
  • โมเมนตัมของการเคลื่อนไหวของราคาครั้งนี้เพิ่มขึ้นหรือน้อยกว่า swing ก่อนหน้านี้ในทิศทางเดียวกันหรือไม่ และนั่นหมายความว่าอย่างไร
  • ลองลงไปให้ลึกขึ้นอีก และพิจารณากระบวนการคิดและจิตวิทยาของผู้คนที่ long (หรือ short) ในการเทรดนี้ และกำลังได้กำไรอยู่ พวกเขากำลังมองหาจุดออกตรงไหน พวกเขาจะเอากำไรออกจากตลาดตรงไหน พวกเขาจะวางจุดตัดขาดทุนตรงไหน สิ่งนี้จะมีความหมายกับพฤติกรรมของราคาในอนาคตอย่างไร
  • ลองพิจารณาจิตวิทยาของนักเทรดที่กำลังสู้กับการเคลื่อนไหวของราคาครั้งนี้ และกำลังขาดทุนอยู่ เหงื่อออกกับทุกๆการขยับของราคา และสวดอ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ - “ถ้าท่านสามารถพลิกราคากลับครั้งนี้จนผมสามารถออกจากตลาดโดยเสมอตัว ไม่ขาดทุน ผมสัญญา ผมจะไม่เข้าเทรดแบบโง่ๆอย่างนี้อีกเด็ดขาด” คนเหล่านี้กำลังพยายามจะออกตรงไหน ที่จุดไหนที่ความกลัวจะมากมายเพียงพอจนทำให้พวกเขาต้องออกจากตลาดทันที
  • ลองพิจารณาจิตวิทยาของนักเทรดที่กำลังดูอยู่ภายนอกที่พลาดโอกาสในการเข้าที่จุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของราคาครั้งนี้ บางคนในกลุ่มนี้จะเป็นนักเทรดมืออาชีพ - พวกเขาจะระบุว่าตรงไหนจะเป็นจุดเข้าที่มีความเสี่ยงต่ำและ/หรือมีความเป็นไปได้สูงในการเข้าไปใน trend นี้ บางคนในกลุ่มนี้จะเป็นนักเทรดมือใหม่ – ตรงไหนจะเป็นจุดที่แย่ที่สุดที่จะเข้า ไล่ราคาตามตลาด และเข้าตลาดเพียงเพราะกลัวที่จะตกรถไฟขบวนนี้ ใช่ บางคนเข้าตลาดในจุดที่แย่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้จริงๆ จุดนั้นควรจะอยู่ตรงไหน และนั่นจะมีความหมายกับการเคลื่อไหวของตลาดในอนาคตอย่างไร

คำตอบต่อคำถามเหล่านี้จะเป็นหัวข้อที่เยี่ยมสำหรับบทความในอนาคต สำหรับตอนนี้ ผมเพียงแค่อยากให้คุณเริ่มต้นมองข้าม indicator และ pattern และค้นพบอีกมิติของการวิเคราะห์ทางเทคนิค – พฤติกรรมของราคา

สังเกตธรรมชาติที่อยู่ภายในของการเคลื่อนไหวของราคา – โมเมนตัมและความผัวผวน และพิจารณาว่าสิ่งนี้จะมีผลอย่างไรต่อการตัดสินใจของนักเทรดมือใหม่ผู้ซึ่งจะเข้าและออกจากตลาดบนความกลัวและความโลภของพวกเขาเอง

และพยายามค้นหาว่าคุณจะสามารถใช้ข้อมูลนี้อย่างไรภายใต้แผนการปัจจุบันของคุณเพื่อลดความเสี่ยงของจุดเข้า ปรับปรุงความเป็นไปได้ที่จุดเข้าของคุณจะอยู่ในจุดที่ถูกต้อง และปรับปรุงการจัดการและการออกของออเดอร์คุณ

ถ้าคุณสนใจในการพัฒนาความได้เปรียบของคุณ ณ ปัจจุบัน ในตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมของราคาอาจจะเป็นเพียงสิ่งที่คุณกำลังขาดอยู่ ลองศึกษาดูสิ

Lance Beggs