ทำไมราคาขยับ – การแนะนำ
เขียนโดย Lance
Beggs
คุณจะพบข้อความในหนังสือ,
เว็บไซต์ หรือการอบรมเกี่ยวกับการเทรดต่างๆมากมายที่ให้ผลออกมาว่า ‘ราคาขยับขึ้นเพราะว่ามีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย’ หรือ ‘ราคาขยับลงเพราะว่ามีผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ’
ขณะที่ผมเข้าใจในสิ่งที่ผู้แต่งกำลังพยายามจะบอก
มันไม่ค่อยถูกซะทีเดียว
ไม่ได้มีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขาย
หรือผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ
ธุรกรรมใดๆก็ตามเกี่ยวข้องกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายทั้งคู่ จำนวนที่เท่ากัน – หนึ่งผู้ซื้อและหนึ่งผู้ขาย
ดังนั้นตลอดช่วงระยะเวลาในการซื้อขาย จำนวนของผู้ซื้อจะจับคู่กับจำนวนของผู้ขายเสมอ
มันค่อนข้างที่จะชัดเจนเมื่อคุณคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
งั้น
ทำไมราคาถึงขยับหล่ะ
ลองออกมาจากตลาดสักแป็บนึง
และคิดถึงการประมูลซื้อบ้าน ใครคนหนึ่งเริ่มการประมูลโดยการเสนอซื้อ
แต่ขั้นตอนการประมูลไม่จบแค่ตรงนั้น การเสนอซื้อครั้งที่สองก็เข้ามาในตลาดในไม่ช้า
และชนะการเสนอซื้อครั้งแรก พวกเขาทำอย่างนั้นทำไม พวกเขาต้องการสิ่งที่ประมูล
พวกเขาต้องการรางวัลสุดท้าย –
ในกรณีนี้คือบ้านหลังนั้น และพวกเขาเต็มใจที่จะจ่ายราคาที่สูงขึ้นเพื่อให้ได้มันมา
หลังจากนั้นราคาเสนอซื้ออีกอันก็เข้ามาในราคาที่สูงกว่า และอีกครั้ง และอีกครั้ง
ณ
จุดหนึ่งจะเหลือเพียงแค่ สองกลุ่มแข่งกันเพื่อให้ได้บ้านหลังนั้นมา ในที่สุด
หนึ่งกลุ่มยอมแพ้ –
พวกนั้นมาถึงขีดจำกัดของพวกเขาแล้วและไม่ต้องการจะจ่ายมากไปกว่านี้
ดังนั้นพวกเขาออกจากการประมูล ไม่มีผู้ซื้อคนอื่นอีกแล้ว ดังนั้นราคาก็ไม่สูงขึ้นอีกเลย
ดังนั้นราคาขยับขึ้นก็ต่อเมื่อในขณะที่มีคนเต็มใจที่จะจ่ายราคาที่สูงขึ้น
ทันทีที่ไม่มีใครเต็มใจที่จะซื้อในราคาที่สูงกว่า ราคาจึงหยุดการเพิ่มขึ้น
และบ้านหลังนั้นจึงถูกขาย ผู้ชนะคือคนที่มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะได้บ้านหลังนั้น
ตลาดการเงินทำงานผ่านขั้นตอนการประมูลที่คล้ายๆกัน
ยกเว้นแต่ว่ามันทำงานทั้งสองทิศทาง ขึ้นและลง
ณ ช่วงเวลาใดๆก็ตาม
มีทั้งราคาเสนอซื้อ (bid) และราคาเสนอขาย
(ask) ผู้ซื้อจำนวนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในตลาดพยายามจะซื้อที่ราคาเสนอซื้อ
และผู้ขายจำนวนหนึ่งกำลังรอคอยพยายามจะขายที่ราคาเสนอขาย
ที่กำลังนั่งอยู่ภายนอกก็เช่นกันเป็นกลุ่มคนที่กำลังรอจะเข้าไปในตลาด
ไม่ว่าจะผ่านธุรกรรมทางซื้อหรือขาย
ราคาจะขยับไปทางไหนจากตรงจุดนี้ก็เป็นการทำงานของฝั่งที่มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะทำธุรกรรม
ถ้าผู้ซื้อไม่ได้ต้องการอย่างสุดๆที่จะซื้อ พวกเขาจะวางออเดอร์ที่ราคาเสนอซื้อ ณ
ปัจจุบัน หรือต่ำกว่า และรอผู้ขายมาหาที่ราคาของพวกเขา อย่างไรก็ตาม
ถ้าผู้ซื้อต้องการอย่างสุดๆที่จะเข้าตลาด –
ถ้าพวกเขารับรู้ว่าราคานี้เป็นราคาที่เยี่ยมและเต็มใจที่จะจ่ายสูงขึ้นอีกหน่อยเพราะว่าพวกเขาต้องการเข้าไป
– พวกเขาจะมีความสุขในการรับราคาเสนอขาย
ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในปริมาณที่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ขายที่ราคาเสนอขายนั้นหมดไป
ดังนั้น ราคาเสนอขายจะขยับขึ้นไปหาผู้ขายกลุ่มต่อไปที่ยังมีอยู่
ผู้ซื้อที่ต้องการอย่างสุดๆ จะต้องรับราคาที่สูงขึ้นไปอีก
ถ้าพวกเขายังคงต้องการที่จะเข้าไปในตลาด ดังนั้น
ราคาขยับสูงขึ้นขณะที่ผู้ซื้อมีความต้องการอย่างสุดๆที่มากกว่า หรือกระหายมากกว่าผู้ขาย
ราคาขยับสูงขึ้นขณะที่ความต้องการซื้อมีมากกว่าความต้องการขาย
ราคาขยับสูงขึ้นขณะที่ความโลภของผู้เล่นในตลาดมากกว่าความกลัวของผู้เล่นในตลาด
ราคาขยับสูงขึ้นขณะที่ผู้ซื้อเต็มใจจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเพื่อจะเข้าไปในตลาด
ขณะราคาขยับสูงขึ้น ผู้ซื้อน้อยรายจะรับรู้ถึงความคุ้มค่าในการซื้อที่ราคาที่สูงนี้
ในขณะที่ผู้ขายมากรายจะถูกดึงดูดจากราคาที่สูงขึ้นนี้ ในที่สุด
ตลาดไม่เหลือผู้ซื้อที่มีความต้องการอย่างสุดๆ – ไม่มีใครเต็มใจที่จะจ่ายสูงกว่า ณ เวลานี้
–
การขยับขึ้นไปเรื่อยๆจะหยุดลง ความสมดุลได้มาถึงแล้ว
พิจารณาต่อไป
อะไรจะเกิดขึ้นถ้าผู้ขายตัดสินใจว่าพวกเขาต้องออกจากตลาด
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม –
บางทีพวกเขาเชื่อว่าราคาจะตกลงในเร็วๆนี้ พวกเขากลับมีความต้องการอย่างแรงกล้าเพียงพอที่จะยอมรับราคาเสนอซื้อ
ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นในปริมาณที่เพียงพอที่จะทำให้ผู้ซื้อที่ราคาเสนอซื้อนี้หมดไป
ราคาเสนอซื้อจะขยับลงไปหาผู้ซื้อกลุ่มต่อไป ถ้าผู้ขายยังคงถูกขับดันโดยความกลัวที่จะพลาดโอกาสในการขาย
พวกเขาจำต้องยอมรับราคาเสนอซื้อที่ต่ำกว่า ผลักดันราคาให้ต่ำลงอีกครั้ง ดังนั้น
ราคาขยับลงขณะที่ผู้ขายมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่มากกว่า
หรือกระหายมากกว่าผู้ซื้อ ราคาขยับลงขณะที่ความกลัวของผู้เล่นในตลาดมากกว่าความโลภของผู้เล่นในตลาด
ราคาขยับลงขณะที่ผู้ขายเต็มใจรับในราคาต่ำกว่าเพื่อจะออกจากตลาด หรือขาย short
ขณะราคาขยับลงไป
ผู้ขายน้อยรายจะรับรู้ถึงความคุ้มค่าในการขายที่ราคาที่ต่ำนี้ ในขณะที่ผู้ซื้อมากรายจะถูกดึงดูดจากราคาที่ต่ำลงนี้
ในที่สุด ตลาดไม่เหลือผู้ขายที่มีความต้องการอย่างแรงกล้า – ไม่มีใครเต็มใจที่จะขายในราคาต่ำกว่านี้
ณ เวลานี้ – การขยับลงไปเรื่อยๆจะหยุดลง
ความสมดุลได้มาถึงแล้ว
ดังนั้น โดยพื้นฐาน
ราคาขยับขึ้นเมื่อความต้องการซื้อมีมากอย่างแรงกล้ากว่าความต้องการขาย
และมันจะขยับขึ้นไปจนถึงจุดที่ไม่มีผู้ซื้อคนใดเต็มใจจะจ่ายในราคาที่สูงกว่า อีกต่อไป
และราคาขยับลงเมื่อความต้องการขายมีมากอย่างแรงกล้ากว่าความต้องการซื้อ
และมันจะขยับลงไปจนถึงจุดที่ไม่มีผู้ขายคนใดเต็มใจจะขายในราคาที่ต่ำกว่า อีกต่อไป
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมราคาขยับ
มันไม่ใช่เพราะว่ามีฝั่งใดมากกว่าอีกฝั่งหนึ่ง มันเป็นเพราะฝั่งหนึ่งมีความต้องการอย่างแรงกล้ามากกว่าอีกฝั่งหนึ่ง
เทรดอย่างมีความสุข
(อย่าต้องการอย่างแรงกล้าจนเกินไปหล่ะ)
Lance Beggs