Saturday, April 6, 2013

แนวรับและแนวต้าน 2 - Swing highs และ lows

บทความนี้แปลมาจากต้นฉบับจาก link นี้

แนวรับและแนวต้าน 2 - Swing highs และ lows
เขียนโดย Lance Beggs

แนวรับและแนวต้าน 2 - Swing highs และ lows

ในบทความล่าสุด ผมกล่าวว่าแนวรับและแนวต้าน (สำหรับผม) มีพื้นฐานอยู่บน swing highs และ lows, บริเวณ congestion, round numbers (ตัวเลขหลักถ้วนๆ) และ gaps (ช่องว่าง) ตอนนี้เราจะพิจารณาชนิดของแนวรับและแนวต้าน, แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันว่าจะระบุพวกมันอย่างไร, และพวกมันประกอบเป็นรูปเป็นร่างอย่างไร ในบทความนี้เราจะเริ่มต้นด้วยแนวรับและแนวต้านที่ผมชื่นชอบ - swing highs และ lows ทำไมพวกมันถึงเป็นที่ชื่นชอบของผมหน่ะเหรอ -  ในความคิดผมพวกมันสามารถสร้างสัญญานที่แข็งแกร่งที่สุดบางอย่าง

swing high ก็คือจุดกลับตัวที่จุดสูงสุดของพฤติกรรมของราคา ราคาขยับขึ้น, มาถึงจุดสูงสุด, และก็ขยับลง เราจะเห็นตัวอย่างจำนวนหนึ่งในกราฟที่จะตามมา

แลัว swing low หล่ะ อืม มันก็แค่กลับด้านกัน swing low ก็คือจุดกลับตัวที่จุดต่ำสุดของพฤติกรรมของราคา ราคาขยับลง, หยุดชะงักที่จุดต่ำสุด, และก็ขยับขึ้น ย้ำอีกคร้ัง เราจะเห็นตัวอย่างจำนวนหนึ่งในกราฟที่จะตามมา

เรานิยาม swing high และ low อย่างแม่นยำได้อย่างไร อืม บางคนชอบที่จะเฉพาะเจาะจง สำหรับ swing high พวกเขาชอบที่จะเห็นจุดสูงสุดของแท่งราคาหนึ่งๆ พร้อมกับจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าประกบอยู่ทั้งสองด้าน คนอื่นๆชอบที่จะเห็นจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าอย่างน้อยสองจุดทางด้านซ้ายและสองจุดทางด้านขวา และแน่นอน swing low ก็แค่กลับด้านกัน จุดต่ำสุดพร้อมกับจุดต่ำสุดที่สูงกว่าหนึ่งหรือสองจุดในแต่ละด้าน

ไม่มีอะไรผิดกับการใช้วิธีนี้ แต่โดยส่วนตัว ผมไม่จำกัดขอบเขตมากนัก ถ้ามันดูเหมือน swing high มันก็คือ swing high ถ้ามันดูเหมือน swing low มันก็คือ swing low

ขณะที่คุณมองที่ swing highs และ lows ในกราฟที่จะตามมา, คุณจะสังเกตว่าแต่ละจุดเป็นจุดกลับตัวอย่างชัดเจน ไม่มีข้อสงสัยใดๆ อย่าพยายามทำการเทรดให้มันซับซ้อนยุ่งยากมากกว่าที่มันเป็น

เอาหล่ะ การใช้แนวรับหรือแนวต้านที่รู้จักกันดีมากที่สุด ก็ดังที่แสดงในกราฟสองกราฟนี้

อย่างแรก, กลุ่มของ swing highs ที่บริเวณราคาที่เท่ากัน (หรือ ที่เท่ากันโดยประมาณ) ประกอบขึ้นเป็นบริเวณแนวต้าน นี่เป็นเพดานที่จำกัดการขยับขึ้นต่อไปของราคา


คุณจะเห็นในกราฟข้างบนว่า มีการหยุดชะงักของการเคลื่อนที่ขึ้นที่ swing highs A, B, C, D และ E

ที่แต่ละจุดเหล่านี้ ราคาขยับขึ้นไปถึง 11460 โดยประมาณ และก็กลับลงมา

ทำไมราคาถึงขยับลงมาจากจุดนี้หลายครั้งอย่างต่อเนื่องหล่ะ อืม เหตุผลเดียวที่ราคาขยับลง ณ swing high ก็คือ ความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ได้พลิกมาทางฝั่งของพวก bears แล้ว การเพิ่มขึ้นของอุปทาน และ/หรือการลดลงของอุปสงค์ได้ทำให้เกิด (ดังที่มันต้องทำให้เกิด) การขยับลงของราคา

ความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์เปลี่ยน ณ จุดนี้เพราะอะไรหรือได้อย่างไร ขณะที่มันสามารถมีเหตุผลมากมาย เหตุผลที่ชัดเจนที่สุดก็คือนักเทรดได้คาดหวังว่ามันจะเปลี่ยน หลังจากที่ได้ย้อนไปดูพฤติกรรมของราคาในอดีต นักเทรดจะสังเกตได้ว่าบริเวณราคาแถวๆนี้ได้ทำตัวเป็นแนวต้านในครั้งก่อนๆ การที่รู้ว่าแนวต้านมีแนวโน้มที่จะต้านอีกครั้งในอนาคต พวกเขาจะเฝ้ามองบริเวณนี้เพื่อหา setup สำหรับการเทรด short ที่มีศักยภาพ การสังเกตการต้านครั้งก่อนๆในบริเวณนั้น และการคาดหวังว่ามันจะต้านได้อีกครั้ง ทำให้นักเทรดเพิ่มอุปทาน ณ บริเวณนี้ ซึ่งเป็นการเพิ่มความเป็นไปได้ในการต้านของบริเวณแนวต้าน

ผมใช้ข้อมูลนี้อย่างไรหน่ะเหรอ ก็ตามที่ได้อธิบายไว้ด้านบนนั่นแหละ ในกราฟของเรา สมมุติว่าผมวาดเส้นแนวต้านหลังจากที่มี swing highs A และ B เกิดขึ้น จากนั้น ขณะที่ราคาขยับขึ้นไปที่บริเวณนั้นอีกครั้งที่จุด C ผมจะคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่มากขึ้นที่แนวต้านจะต้านอยู่อีกครั้ง (สังเกต: ผมไม่ได้หวังการรับประกันใดๆ - แนวนี้อาจจะต้านไม่อยู่ ผมเพียงแค่คาดคะเนถึงความเป็นไปได้ที่สูง ที่มันจะต้านอยู่) จากนั้น สังเกตหลักฐานของการชะงักในโมเมนตัมขาขึ้นภายในบริเวณ setup  ของผม ผมจะวาง limit order เพื่อเทรด short ให้ใกล้จุดสูงสุดใ้ห้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ผมเห็นประโยชน์จริงๆสองอย่างคือ

(a) การเทรดที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้น โดยเข้าเทรดให้ใกล้บริเวณของแนวต้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าการขยับจะเคลื่อนไปเพียงระยะสั้นๆเท่านั้น การเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของจุด stop loss ของผม ไปยังจุดคุ้มทุน บวกกับกลยุทธ์การขยายระยะ take profit ให้ความเป็นไปได้ที่มากขึ้นของการเทรดที่มีกำไร 

(b) การเทรดที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า โดยการเข้าเทรดให้ใกล้บริเวณแนวต้านในขณะที่ราคายังให้โอกาสผมอยู่ ผมได้ระยะวางจุด stop loss ที่ลดลง สำหรับกรณีที่แนวต้านเอาไม่อยู่ 
แนวรับก็ทำงานในลักษณะเดียวกันเป๊ะ โดย swing lows หลายๆจุดเกิดขึ้นบริเวณราคาที่เท่ากัน หรือ ที่เท่ากันโดยประมาณ



swing low บ่งบอกบริเวณที่แสดงการพลิกของความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ไปทางฝั่งของผู้ซื้อ ในครั้งก่อนๆ

หลังจากที่ได้ระบุบริเวณของแนวรับที่มีศักยภาพ จาก double bottom ครั้งก่อนๆ ที่ swing lows A และ B, ผมรู้ว่าบริเวณนี้ให้ setup ที่มีศักยภาพสำหรับการเทรด long ถ้าราคาย้อนกลับมาที่แนวรับนั้น ดั่งที่เกิดขึ้นที่ C ในความเป็นจริงตัวอย่างนี้แสดง setup ที่ยอดเยี่ยม จากการที่ราคาได้เคลื่อนที่ลงมาเป็นระยะที่ยาวมากเพื่อมาถึงจุด C

ผมกำลังจะเข้าร่วมกับนักเทรดคนอื่นๆที่จุด C ในการมองหาจุดเข้าเทรดในทิศทางขาขึ้น ด้วยการเข้าเทรดให้ใกล้จุด C ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่มันอาจจะยากในการเทรดครั้งนี้ เนื่องจากราคาแตะบริเวณแนวรับและหลังจากนั้นก็เคลื่อนที่สูงขึ้นทันที คนที่สามารถเข้าเทรดได้ทัน จะได้การเทรดที่มีโอกาสเป็นไปได้ที่สูงขึ้น และมีความเสี่ยงที่ต่ำลง

แนวคิดนี้สามารถนำมาใช้ภายในสภาพแวดล้อมที่เป็น trend ดังแสดงในกราฟด้านล่าง



ใน downtrend ผมได้สังเกตราคากำลังทำ swing high และแนวต้านย่อย ที่จุด A ผมจะคาดหวังว่าถ้าราคากลับมาที่บริเวณนี้ จะมี setup ที่มีศักยภาพสำหรับการเทรด short

ราคาเข้ามาใกล้ระดับแนวต้านนี้พร้อมกับ swing highs B และ C, ให้โอกาสสองครั้งสำหรับการเทรดที่ยอดเยี่ยมในทิศทางขาลง

การใช้ swing highs เป็นแนวรับหรือแนวต้านที่รู้จักกันดีมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือ บริเวณที่เป็นแนวต้านในครั้งก่อนกลายเป็นแนวรับในปัจจุบัน และแนวรับในครั้งก่อนกลายเป็นแนวต้านในปัจจุบัน


คุณสามารถเห็นในตัวอย่างข้างบน ว่าแนวต้านในครั้งก่อนที่เกิดจาก swing high ที่จุด A, ถูกทะลุผ่านที่จุด B และกลายเป็นแนวรับที่ swing lows C และ D

ทำไมการเปลี่ยนแบบนี้จึงได้ผล อืม นอกเหนือจากความต้องการซื้อที่เพิ่มเข้ามาจากนักเทรดอย่างเช่นผม ที่คาดหวังให้แนวรับที่ swing low C รับอยู่และมองหา setup ในทิศทางขาขึ้น, ยังมีเหตุผลทางจิตวิทยาสำหรับบริเวณนี้ที่รับอยู่ อีกด้วย

คุณจะจำได้ก่อนหน้านี้ที่พูดคุยเกี่ยวกับแนวต้าน ที่ว่านักเทรดมากมายคาดหวังว่ามันจะต้านอยู่ ขณะราคาเข้ามาใกล้จุด B นักเทรดบางคนได้เข้า short โดยคาดการณ์การหยุดชะงักของการขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาในบริเวณเดียวกับ swing high A ขณะที่ำไม่มีอะไรผิดเี่กี่ยวกับ setup นั้น, การแก้ไขเมื่อมีการทะลุผ่านแนวต้านที่ B ก็คือการออกจากตลาดทันทีเพื่อลดการขาดทุนให้เหลือน้อยที่สุด โชคร้ายที่นักเทรดจำนวนมากมีปัญหาเีกี่ยวกับการออกจากตลาด พวกเขาไม่ออกโดยทันที พวกเขากลับยังคงถือเทรดของพวกเขาไว้, กำลังหวัง และกำลังสวดอ้อนวอนเพื่อให้ราคาเลี้ยวกลับมาและนำพวกเขากลับไปสู่กำไร ขณะที่ราคาวิ่งห่างจากพวกเขาไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ความเจ็บปวดก็ไม่สามารถจะทนทานได้มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ถ้าราคาไม่เลี้ยวกลับมา พวกเขาจะถูกบังคับให้ออกจากตลาดด้วยการขาดทุนที่มากมายเมื่อพวกเขาไม่สามารถทนความเจ็บปวดที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไป แม้ว่าในกรณีนี้ bullish candle แท่งยาวๆที่ B จะตามมาด้วย doji ซึ่งน่าจะให้ความหวังเล็กๆ หลังจากนั้น ราคาเริ่มคลืบคลานอย่างช้าๆและเต็มไปด้วยความเจ็บปวด กลับมายังจุดที่เข้าเทรด ถึงตอนนี้ นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ของเรา ซึ่งติดกับจากการเทรด short ที่กำลังขาดทุนอยู่ ก็กำลังสวดอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงที่พวกเขาคิดออก เพียงเพื่อให้ราคาย้อนกลับมาที่จุดเข้าเทรดของพวกเขา เพื่อที่พวกเขาจะได้ออกจากตลาดแบบเท่าทุนและไม่ต้องอธิบายต่อเพื่อนร่วมงานว่าทำไมพวกเขาถึงได้ขาดทุนอีกหนึ่งครั้ง

เทพเจ้าแ่ห่งการเทรดให้รางวัลแ่ก่นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ของเราในครั้งนี้ และให้โอกาสพวกเขาที่จะออกจากตลาด ณ จุด C และอย่างที่คุณรู้ การออกจากการเทรด short ต้องใช้คำสั่งซื้อ รวมกับคำสั่งซื้อของผม และของนักเทรดคนอื่นๆซึ่งคาดการณ์ว่า แนวต้านที่กลายเป็นแนวรับ จะรับอยู่

คำสั่งซื้อที่เพิ่มเข้ามาทั้งหมดเหล่านี้ที่ระดับราคานี้ได้เพิ่มความต้องการซื้อ นำไปสู่การสร้าง swing low C และ setup ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรดในทิศทางขาขึ้น

เรามาดูอีกตัวอย่างหนึ่ง


swing high ครั้งก่อนๆเกิดขึ้นที่จุด A นักเทรดบางคนซึ่งคาดการณ์ว่าบริเวณนี้จะต้านอยู่อีกครั้งที่ B ได้เข้าเทรด short และหลังจากนั้นยังคงถือเทรดที่ขาดทุนของพวกเขาอยู่ ความเจ็บปวดของการถือการขาดทุนทำให้พวกเขาออกจากตลาดแบบเท่าทุนทันทีที่ราคามาถึงจุดนั้นอีกครั้ง ที่บริเวณ C, แนวต้านจาก swing high ที่ A ได้เปลี่ยนเป็นแนวรับ swing low ที่ C และโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรดที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นและความเสี่ยงต่ำลง ในทิศทางขาขึ้น

แนวคิดเดียวกันใช้ได้กับแนวรับที่กลายเป็นแนวต้าน


กราฟข้างบนแสดงบริเวณของแนวรับที่รับอยู่ ณ swing lows A และ B เมื่อราคาย้อนกลับมาที่บริเวณนั้น ณ C นักเทรดมากมายจะคาดหวังว่าระดับราคานี้จะรับอยู่อีกครั้ง ดังนั้นจะเข้าเทรด long

แม้ว่าในกรณีนี้ การเทรด long ล้มเหลวอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นักเทรดเหล่านี้อยู่ในสภาพขาดทุน ราคาได้ย้อนกลับมาที่บริเวณนั้น ที่ D ให้โอกาสพวกเขาในการปลดเปลื้องความเจ็บปวดทางจิตวิทยา และออกจากตลาดแบบเท่าทุน

ความต้องการขายที่เพิ่มขึ้นโดยนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์เหล่านี้ที่ต้องการออกจากตลาดเพราะเหตุผลทางจิตวิทยา, และโดยเหล่านักเทรดดังเช่นตัวผมที่คาดการณ์ แนวรับที่กลายเป็นแนวต้านนี้ ทำให้ D สร้าง swing high และโอกาสที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรด short ที่มีความเป็นไปได้สูงขึ้นและความเสี่ยงต่ำลง

ตัวอย่างสุดท้าย

 
กราฟข้างบนแสดง swing lows A และ B ซึ่งกำหนดบริเวณของแนวรับ เมื่อราคาย้อนกลับมาที่นั่นอีกครั้ง ณ C, การคาดการณ์ว่าแนวรับนี้จะรับอยู่จะทำให้นักเทรดมากมายเข้าเทรด long ไม่มีอะไรผิดเกี่ยวกับการทำเช่นนั้น มันเป็น setup ที่เยี่ยมและผมก็คงจะทำอย่างนั้นด้วยแน่นอน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมแตกต่างจากนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่ ก็คือผมจะออกจากตลาดด้วยการขาดทุนทันทีที่แนวรับที่ C รับไม่อยู่ นักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์จะถือเทรดของพวกเขาไว้ หวัง อธิษฐาน และสวดอ้อนวอนสำหรับโอกาสที่จะช่วยให้เขารอดจากการขาดทุน สิ่งนี้ถูกจัดให้พวกเขาที่จุด D ซึ่งเป็นโอกาสให้ออกจากตลาดแบบเท่าทุน

swing high ถูกสร้างขึ้นที่ D โดยการเพิ่มของความต้องการขายจากการออกจากตลาดแบบเท่าทุนของนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์เหล่านี้ และจากนักเทรดเช่นผมซึ่งคาดการณ์ แนวรับกลายเป็นแนวต้าน

นักเทรดที่พลาดโอกาสจากจุด D ยังได้โอกาสอีกครั้งในการออกจากการเทรด long ของพวกเขาแบบเท่าทุน (หรือ เข้าเทรด short) ที่ swing high E

เราจะดำเนินเรื่องในหัวข้อนี้ต่อไปด้วยบทความอีกอันหนึ่งซึ่งจะแสดงวิธีที่ผมใช้บริเวณ congestion ในการระบุบริเวณของแนวรับและแนวต้านที่มีศักยภาพ

อย่างไรก็ตาม ประเด็นสุดท้ายสำหรับนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์ อย่าหลงเข้าใจผิดจากตัวอย่างทั้งหลายข้างบน ในการคิดว่าการเทรดที่กำลงขาดทุนของคุณจะกลับมายังจุดเท่าทุนเสมอ มันเป็นอย่างนั้นในตัวอย่างเหล่านี้ แต่บ่อยครั้งมากที่ความเจ็บปวดจะเกินทนได้ และคุณจะต้องออกจากตลาดด้วยการขาดทุนที่มากเกินความจำเป็นก่อนที่ราคาจะกลับมาถึงจุดเท่าทุน โชคร้ายสำหรับนักเทรดที่ไม่มีประสบการณ์พวกนั้นซึ่งยังคงถือเทรดไว้และได้โอกาสในการออกจากตลาดแบบเท่าทุน สิ่งนี้จะตอกย้ำการตัดสินใจของพวกเขาในการไม่ออกจากตลาดเมื่อขาดทุน ปล่อยให้พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะทำแบบนี้อีกครั้ง และหนึ่งเทรดจะเข้าใกล้การสูญเสียอย่างใหญ่หลวง

ให้แน่ใจว่านักเทรดที่ไม่ออกจากตลาดเมื่อขาดทุนนั้นไม่ใช่คุณ จงคำนึงถึงความเสี่ยงในตลาด และออกจากตลาดเสมอ

เทรดอย่างมีความสุข

Lance Beggs